Idler Mag Lifestyle ข้อดีของการเลือกใช้ การตรวจสารเสพติดผ่านร่างกาย

ข้อดีของการเลือกใช้ การตรวจสารเสพติดผ่านร่างกาย

บริษัทรับตรวจสารเสพติดทางเหงื่อ

โดยปกติแล้วการตรวจหาสารพสเพติดนั้นจะมีวิธีต่าง ๆ มากมายอาทิเช่น การตรวจปัสสาวะเพื่อหาผลสารเสพติด ซึ่งวิธีนั้นจะค่อนข้างใช้เวลานาน ทำให้กินเวลา “หลายนาที” กว่าจะได้ผล ดังนั้นในปัจจุบันจึงมีการ บริษัทรับตรวจสารเสพติดทางเหงื่อ เกิดขึ้นมา ซื้อจะใช้วิธีการใช้ผ้าแบบพิเศษเช็ดไปที่ร่างกาย เพียงเท่านี้ก็สามารถตรวจหาสารเสพติดได้แล้วนะครับ ดงนั้นในบทความนี้เราจึงอยากจะขอพูดถึงข้อดีของ “บริษัทรับตรวจสารเสพติดทางเหงื่อ” ว่าจะมีข้อด้านใดบ้าง  

ประหยัดเวลา  

อย่างแรกลยที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้นั้นคือในเรื่องของการตรวจที่รวดเร็ว โดยใช้เวลาเพียงไม่นาน ก็สามารถตรวจได้จำนวนที่มากกว่ากว่าวิธีปกติ โดยหากคิดเป็นตัวเลขแบบง่าย ๆ ใน 1 ชม. สามารถตรวจได้สูงสุดอยู่ที่ 1410 รายเลยนะครับ  

ตรวจสารเสพติดได้มากกว่า  

การตรวจสารเสพติดแบบก่อนนั้นจะสามารถตรวจสารเสพติดได้เพียงแค่ ชนิดเดียวเท่านั้น แต่ถ้าใช้บริการบริษัทรับตรวจสารเสพติดทางเหงื่อ นั้นจะสามารถตรวจสอบได้ถึง 17 ชนิด ซึ่งสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้นานถึง 1 เดือน ทำให้ผลที่ออกมานั้นจะคลอบคลุมกว่า 

ไม่สามารถทุจิตได้  

สมัยก่อนการทุจริตนั้นทำขึ้นได้ง่าย ๆ เพียงแค่การเปลี่ยนปัสสาวะ ซึ่งแน่นอนว่าเคยมีเหตุการณ์ดังกล่าวแน่นอน แต่ถ้าหากใช้บริการบริษัทรับตรวจสารเสพติดทางเหงื่อ ปัญหาการทุจริตนั้นจะหมดไปอย่างแน่นอน เพราะเจ้าหน้าที่สามารถเฝ้ามองได้ตลอดเวลา ทำให้การทุจริตเกิดขึ้นได้ยากอย่างแน่นอน  

ราคาถูก  

หากให้เปรียบเทียบราคาของการตรวจสารเสพติดแบบเก่า และ แบบใหม่นั้นราคาแทบจะไม่ต่างกันเลย แต่ถ้าหากนำตัวเลขของผู้ที่ได้เข้ารับการตรวจทั้งวันมาเทียบกันจะพบว่ามีความห่างกันครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว ดังนั้นจึงถือว่าคุ้มค่ามากกว่าที่จะเลือกใช้บริษัทรับตรวจสารเสพติดทางเหงื่อ 

และนี้เป็นเพียงข้อดีเล็ก ๆ น้อย ๆ ของการเลือกใช้บริการบริษัทรับตรวจสารเสพติดทางเหงื่อ โดยหากเปรียบเทียบข้อดีแล้วจะตอบโจทย์สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม และ องกรณ์ หรือ บริษัทอย่างมากเลยนะครับ เพราะนอกจากจะรวดเร็วแล้ว ยังราคาถูกอีกด้วย  

Related Post

ควบคุมงบในการสร้างบ้านอย่างไร ไม่ให้เกิดปัญหาบานปลายควบคุมงบในการสร้างบ้านอย่างไร ไม่ให้เกิดปัญหาบานปลาย

การจะสร้างบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง ถือว่าเป็นเรื่องที่ใหญ่เรื่องหนึ่งในชีวิต และต้องเตรียมตัวอะไรหลายอย่างก่อนที่จะสร้าง เพื่อให้ได้บ้านเหมือนที่ฝันเอาไว้ แต่การสร้างบ้านก็ใช่ว่าจะง่ายดั่งใจทุกอย่าง เพราะมีปัญหาหลายข้อเหมือนกันที่ต้องเจอ ตั้งแต่การหาผู้รับเหมา รับสร้างบ้าน ที่ต้องเลือกให้ดี และปัญหาบานปลายเกี่ยวกับงบในการก่อสร้าง ปัญหาเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องรับมือก่อนเริ่มสร้างจริง วิธีที่ต้องดูให้ดีก็คืองบในการสร้างบ้าน ฉะนั้นเราจะมาดูกันว่าวิธีการในการควบคุมงบสร้างบ้าน มีอะไรที่ควรรู้ เพื่อที่เวลาสร้างจริงจะได้จัดการกับปัญหาเหล่านี้ได้ วิธีการควบคุมงบสร้างบ้านไม่ให้บานปลาย 1.เข้าใจขั้นตอนการสร้างบ้าน ก่อนอื่นเพื่อเป็นการประเมินงบสร้างบ้านเบื้องต้น คุณควรทราบขั้นตอนในการสร้างบ้านก่อนว่ามีส่วนไหนที่จำเป็นต้องใช้งบ โดยขั้นตอนหลักๆ ในการสร้างบ้านก็คือ ขั้นตอนการถมที่ดินหรือปรับที่, ขั้นตอนการวางโครงสร้างบ้าน, วัสดุในการสร้างบ้าน, ขั้นตอนการสร้างบ้าน, และสุกท้ายก็คือขั้นตอนในการตกแต่งบ้าน ที่จะเป็นส่วนที่มีงบบานปลายมากที่สุด 2.เลือกวัสดุ วัสดุในการสร้างบ้านมีหลายอย่างที่จำเป็น และวัสดุแต่ละประเภทก็จะมีหลายเกรดให้เลือกด้วย

บ้านพักคนชรา

เรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “บ้านพักคนชรา” ที่หลายคนอาจจะเข้าใจผิดอยู่เรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “บ้านพักคนชรา” ที่หลายคนอาจจะเข้าใจผิดอยู่

ปัจจุบันผู้สูงอายุนั้นกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมากในประเทศไทย และด้วยอัตราการมีผู้สูงอายุมากขึ้นในประเทศไทยก็ทำให้บ้านพักคนชรา นั้นเพิ่มมากขึ้นในประเทศไทย ซึ่งนั้นทำให้หลาย ๆ ครั้งมีการเข้าใจผิดเกี่ยวกับ บ้านพักคนชรา มากขึ้น ดังนั้นในบทความนี้เราจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับบ้านพักคนชรากันมากขึ้นดีกว่านะครับ  บ้านพักคนชราไม่ใช่สถาณรับดูแลผู้ป่วย  ความเข้าใจผิดแรกที่สำคัญที่สุดนั้นคือ ในเรื่องของบ้านพักคนชรานั้นไม่ใช่ nursing home หรือสถาณพยาบาลนะครับ เพราะว่าบ้านพักคนชรานั้นมีจุดมุ่งหมายนั้นคือ การบริการให้กับผู้สูงอายุที่ถูกทอดทิ้งด้วยความตั้งใจ หรือ เต็มใจเข้ามาอยู่เอง ซึ่งจะมีบริการต่าง ๆ แต่หลักการสำคัญคือ ผู้สูงอายุนั้นจะต้องดูแลตัวเองและไม่ใช่ผู้ป่วยที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด หรือ ต้องการการรักษพยาบาลตลอดเวลา  พูดง่าย ๆ คือ ต้องเป็นคนชราที่แข็งแรงเท่านั้น มีการดูแลที่ดีอย่างแน่นอน   หลาย ๆ คนนั้นอาจจะมองภาพลักษณ์จากบ้านพักคนชราว่าเป็นบ้านที่น่ากลัว หรือ อาจจะมีการดูแลที่ไม่ดี แต่แท้จริงแล้วบ้านพักคนชรานั้นมีการเป็นอยู่ที่ดีมากนะครับ

ท็อปเปอร์

มาทำความรู้จักกับท็อปเปอร์กัน อะไรคือท็อปเปอร์มาทำความรู้จักกับท็อปเปอร์กัน อะไรคือท็อปเปอร์

คุณเคยไหมรู้สึกเหนื่อยล้าจากการใช้ชีวิตมาทั้งวัน? วันที่เหนื่อยล้าจากการทำงานนั่งหน้าคอม หรือการใช้แรงงานกล้ามเนื้อ ที่มากเกินไปส่งผลทำให้เกิดการปวดเมื่อยที่ตัวและหลัง อย่างเช่น อาการของ Office syndrome ที่จะเกิดขึ้นกับกลุ่มวัยทำงานโดย เฉพาะกลุ่มพนักงานออฟฟิศที่จะต้องนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือบุคคลที่จะต้องทำงานนั่งท่าเดิมๆซ้ำๆเป็นเวลานานๆส่งผลทำให้เกิด ผลกระทบกับโรคต่างๆ เช่น เป็นระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ ระบบนัยน์ตาและการมองเห็น ระบบการย่อยอาหารและระบบอื่นๆ มากมายได้อีกด้วยแต่อาการออฟฟิศซินโดรมจะส่งผลต่อระบบกระดูก  และกล้ามเนื้อมากที่สุด ซึ่งอาการที่จะพบได้บ่อยคือ ปวดตึงที่คอ และบ่า ถ้าเป็นมากๆ อาจมึนและปวดร้าวศีรษะหรือมีอาการชาลงมาที่แขนได้ ซึ่งเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น เวลาทำงานนั่งผิดท่า ต้องนั่งก้มคอ เป็นเวลานานๆ เกร็งกล้ามเนื้อนานๆ รวมไปถึงการนั่งไปเรื่อยๆติดต่อกัน โดยไม่ได้มีเปลี่ยนท่า การยืดเส้นหรือลุกจากที่นั่งเพื่อผ่อนคลาย  เพราะฉะนั้นหลังจากการกลับมาจากการทำงานถึงที่บ้านเราจึงควรได้รับ การพักผ่อนอย่างเต็มที่เอาสิ่งที่เราแบกเอาไว้ที่หลังความเหนื่อยล้าต่างๆ ความปวดตัวทั้งหมด ยกมันออกไป และได้รับที่นอนที่แสนจะนุ่ม สบายที่จะทำให้ไม่ปวดหลัง ปวดตัว ปวดคอ ปวดบ่า ปวดไหล่ ปวดกล้ามเนื้อไปมากกว่าเดิมท็อปเปอร์จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่พวกเราควรมีติดบ้านเอาไว้  ท็อปเปอร์ (Topper) หรือเรียกอีกชื่อนึงอย่างที่คุ้นเคยกัน นั่นก็คือ ที่นอนปิกนิกนั่นเองเป็นแผ่นที่เอาไว้ใช้เสริมเตียงนอนเพื่อให้มีความนุ่มสบายตัวเรามักจะพบบ่อยได้ในโรงแรมเพราะด้วยความนุ่มของมันจนใครๆก็ต้องหลงรักในความนุ่มของท็อปเปอร์โรงแรมจึงชอบนำมาเป็นที่นอนเสริมและโดยทั่วไปท็อปเปอร์จะมีความหนาอยู่ที่ประมาณ 1-4 นิ้ว ส่วนวัสดุที่ใช้ทำนั้นจะแบ่งได้หลักๆ 5 อย่าง คือ  1. Topper ที่ทำมาจากฟองน้ำ ซึ่งวัสดุชนิดนี้ก็จะมีหลากหลายมากมาย อาทิเช่น เศษโฟมที่เป็นท่อแอร์สีดำ เศษฟองน้ำอัดกาว หรือถ้าดีหน่อยก็จะเป็นฟองน้ำแผ่นๆที่มีระดับความหนาของมันอยู่ความนุ่มก็จะแตกต่างกันออกไป แต่ตัวที่เป็นที่นิยมเลยในหมวดของ ท็อปเปอร์ฟองน้ำ ก็จะเป็น Memory Foam เพราะให้ความนุ่มและ ความหนืดแต่ก็ตามมาด้วยปัญหาที่ค่อนข้าง มีน้ำหนักพอสมควร ยากต่อการขนย้าย  2. Topper ที่ทำมาจากใยมะพร้าว เป็นตัวที่นิยมในสมัยแรกๆตอนต้นที่ยังไม่ค่อยมีใครได้รู้จักท็อปเปอร์ ซึ่งจะเป็นใยมะพร้าวแผ่นอัดแข็งและจะมีฟองน้ำบางๆอยู่ข้างบนหรือข้างล่างก็ได้ แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะแข็งๆหน่อยและมีน้ำหนักมาก ยากต่อการขนย้าย จึงเป็นได้แค่ที่นิยมในตอนช่วงแรกๆเท่านั้น  3. Topper ที่ทำมาจากยางพาราและยางพาราสังเคราะห์ ซึ่งจะแบ่งเป็น2ชนิด คือ เศษยางอัดและยางพาราแผ่น ซึ่งวัสดุนี้ที่นำมา ใช้ก็จะอ่อนนุ่มกว่า2ตัวข้างบนเยอะมากๆและใช้ได้นานกว่าทนทานกว่า แต่ก็จะแลกมาด้วยกับราคาที่ค่อนข้างสูงกว่า ด้วยเช่นกัน แต่ก็ยังคงคอนเซปต์น้ำหนักเยอะเช่นเดิม  4. Topper ที่ทำมาจากใยต่างๆ อาทิเช่น ใยขนห่านเทียม ซึ่งเป็นที่นิยมมากๆ เพราะใยขนห่านเทียมนี้จะมีความนุ่มความลื่น สบายตัว ฟูๆเหมือนอยู่บนปุยเมฆ เป็นวัสดุที่นุ่มที่สุด และมีน้ำหนักเบา ที่สุดจากทั้งหมดที่กล่าวมาแต่ก็จะตามมาด้วยราคาที่สูงพอตัวด้วยเช่นกัน  5. Topper ที่ทำมาจากขนสัตว์ ขอยกตัวอย่างขนสัตว์ที่เป็นที่นิยมในการนำมาทำเป็นวัสดุ ก็คือ ขนเป็ด ซึ่งมีหลายราคาตั้งแต่หลักพันขึ้นจนไปถึงหลักหมื่น ความนุ่มก็จะไล่เลี่ยไปตามระดับ ประสิทธิภาพในความนุ่มนั้นนุ่มจริงแต่ก็จะมีระยะเวลาที่ใช้นั้นได้ไม่นานนัก อายุสั้น และอาจมีกลิ่นสาปสัตว์ขึ้นมาได้ ผู้ที่จะใช้วัสดุนี้จึงจำเป็นจะต้องพิถีพิถันในการเลือก เลือกให้ดีและต้องมีกำลังทรัพย์ที่มากกว่ากว่าการเลือก Topper ประเภทอื่นอีกเท่าตัว  และนี่ก็คือวัสดุหลัก 5 อย่างใหญ่ๆที่นำมาใช้เป็นท็อปเปอร์ การเลือกวัสดุอยู่ที่ความพึงพอใจว่าต้องการแบบไหน ต้องไปลองไปสัมผัสด้วยตัวเอง ความนุ่มแบบไหนที่ใช่ ที่ได้นอนแล้วจะชอบ แล้วจะทำให้คืนธรรมดาๆกลายเป็นคืนพิเศษด้วยท็อปเปอร์แผ่นรองเตียงที่แสนจะนุ่ม พร้อมเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการไม่ต้องมาปวดหลัง